อาหารเช้ามีความสำคัญต่อ ร่างกายอย่างไร???
อาหารเป็นสิ่งที่เมื่อนำเข้า สู่ร่างกายแล้ว ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกาย อาหารมีความสำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย ในแต่ละวันเราต้องนำพลังงานและสารอาหารต่างๆที่ได้จากการทานอาหารไปใช้ใน กระบวนการต่างๆ ของร่างกาย และการดำเนินกิจกรรมประจำวันของเรา
อาหารในแต่ละมื้อมีความสำคัญ ต่อเราทั้ง สิ้น การทานอาหารที่แบ่งออกเป็น 3 มื้อนั้นเกิดขึ้นจากขนบธรรมเนียมและความเคย ชินในการการทานอาหารของมนุษย์ ดังนั้นหากเราเคยทานอาหารที่เวลาใดเป็นประจำก็ตาม เราก็จะเกิดความรู้สึกหิวตามเวลานั้นๆ ในทุกๆ วัน ซึ่งการแบ่งการทานอาหารออกเป็น 3 มื้อนั้น เป็นการจัดแบ่งที่เหมาะสมสำหรับการตอบสนองความต้องการของร่างกาย แต่อาหารมื้อที่มีความสำคัญที่สุดและมักถูกมองข้ามไป ก็คือ “อาหารมื้อเช้า”ด้วยเหตุผลแตกต่างกันไปของแต่ละบุคคล บางคนอาจต้องเร่งรีบไปทำงาน บางคนอาจจะคิดว่าไม่รู้สึกหิว ไม่จำเป็นต้องทานก็ยังทำงานได้ หรือบางคนอาจอยู่ในช่วงของ การลดน้ำหนักจึงคิดอดอาหารเช้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อร่างกายกายไม่มีพลังงานจาก อาหารเช้าเพื่อนำไปใช้ ร่างกายจะดึงสาร อาหาร จากอวัยวะส่วนอื่นออกมา แต่ไม่ใช่สารอาหารจำพวกไขมันหรือส่วนเกินต่างๆ อย่างที่เราคิด แต่กลับทำให้ร่างกายเกิดกระบวนการสร้างกรดชนิดหนึ่งออกมา ซึ่งการที่เราคิดว่าแม้ไม่ทานอาหารเช้าก็ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ ที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากร่างกายได้นำเอากรดที่เกิดขึ้นมาใช้แทนพลังงานทุก วัน เราจึงทำงานอยู่ได้โดยใช้กรดแทนพลังงาน เมื่อร่างกายของเราต้องผลิตกรดออกมาบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายเสียสมดุลของสารเคมีภายในร่างกาย เกิดสารอนุมูลอิสระซึ่งเปรียบเสมือนกับสารพิษมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นโรคต่างๆ ก็จะตามมาหลายชนิด
นอกจากนั้นการขาดการทานอาหาร เช้าอาจจะทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดและอารมณ์เสียง่าย ยิ่งเมื่อถึงเวลาใกล้เที่ยงจะเกิดอาการโมโหหิวได้ง่าย เพราะอาหารเช้ามีผลต่อการทำงานของสมอง ตามที่กล่าวมาข้างต้น หากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารจากอาหารเช้า ร่างกายจะดึงสารอาหารจากอวัยวะส่วนอื่นออกมา ซึ่ง ส่วนที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งก็คือ “สมอง” ร่างกายจะดึงสารอาหารที่ใช้ในการทำงานของสมองมาใช้ในการทำงานของร่างกายแทน ทำให้สมองขาดสารอาหารที่จะนำไปใช้ในการทำงาน จึงเกิดผลกระทบกับสมอง อาจกลายเป็นคนสมองเลอะเลือน เป็นคนขี้หลงขี้ลืม หรือความจำเสื่อม เมื่อแก่ตัวลง และอวัยวะอีกส่วนหนึ่งที่จะถูกดึงสารอาหารออกไปก็คือ “ตับ” ตับจะถูกดึงสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตออกไป เพื่อไปใช้ในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดที่ต่ำ เนื่องจากการไม่ทานอาหารเช้า
จากผลงานการ วิจัยหลายเรื่องทำให้กล่าวได้ว่า การทานอาหารเช้าที่มีคุณค่า มีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง ยกตัวอย่างเช่น คนที่ทานอาหารเช้าจะมีพลังงานในการทำงานได้นานกว่า และมีความอ่อนล้าในช่วงกลางวันน้อยกว่าคนที่เริ่มอาหารเช้า ด้วยการดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียว ถ้าเราปล่อยให้ร่างกายคอยนานเกินไปกว่าจะได้รับอาหารมื้อแรกของวัน ระบบการย่อยอาหารก็จะมีความเฉื่อยชาในการทำงาน การใช้วิธีการอดอาหารเช้า เพื่อลดน้ำหนักนั้นเป็นความคิดที่ผิด เพราะอาหารเช้ามีส่วนเชื่อมโยงทำให้มวลกายต่ำ(หรือน้ำหนักลด) ลงกว่าเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่อดอาหารเช้า อาหารเช้ายังเป็นหนึ่งในหลายยุทธศาสตร์ ที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยควบคุมกา รลด น้ำหนักได้ในระยะยาว อาจเป็นเพราะการทานอาหารเช้าเป็นส่วน หนึ่งที่ช่วยลดปริมาณการทานอาหาร ว่าง อีกทั้งอาหารเช้าสามารถช่วยลดปัจจัยเสี่ยงการเป็นโรคอ้วนลงพุงและภาวะตอบ สนองต่ออินซูลินลดลง นอกจากนั้นงานวิจัยชิ้นหนึ่งยังพบว่า เด็กที่ทานอาหารเช้ามีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า ให้ความร่วมมือดีกว่า และมีสมาธิในการเรียนดีกว่าเด็กที่ไม่ได้ทานอาหารเช้า อาจกล่าวได้ว่า การทานอาหารเช้ามีผลต่อผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก
จะเห็นได้ว่าอาหารเช้านั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกายของ เรา ดังนั้นเราจึงควรทานอาหารเช้าที่มีคุณค่าทุกวัน สำหรับคนที่ไม่มีเวลาสำหรับทำอาหารในตอนเช้า อาจจะซื้อของสดสำเร็จรูปมาเก็บไว้ในตู้เย็นไว้ก่อนเพื่อทานในตอนเช้า และสำหรับคนที่เร่งรีบจริงๆ อาจซื้ออาหารกึ่งสำเร็จรูปพกติดกระเป๋าไว้ อาจจะเป็นโจ๊ก หรือซุป ที่สามารถเทใส่ถ้วย เติมน้ำร้อน ก็สามารถทานได้เลย และที่สำคัญไม่ควรทานอาหารซ้ำกันบ่อยๆ เช่น อาหารจานเดียว เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่นั้นที่สุด แต่ต้องมีสัดส่วนกับปริมาณที่เหมาะสม และมีความหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายของเราได้รับประโยชน์มากที่สุด จากอาหารแต่ละมื้อ โดยเฉพาะมื้อสำคัญอย่างมื้อเช้า ส่วนช่วงเวลาที่ควรทานอาหารเช้าคือ ช่วงเวลาระหว่าง 07.00 – 09.00 น. เพราะเป็นช่วงการทำงานของกระเพาะอาหาร จะทำให้กระเพาะอาหารแข็งแรง และระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
|